Month: August 2018

 

เครื่องฟอกอากาศใหญ่ที่สุดในโลกที่เมืองซีอานใครเป็นคนสร้าง และทำขึ้นเพื่ออะไร

The largest air purifier in the world

ปกติเวลานึกถึงเครื่องฟอกอากาศคนทั่วไปคงนึกแค่เครื่องขนาดเล็กเอาไว้ใช้ภายในบ้าน อาคารต่างๆ คุณภาพของเครื่องแตกต่างกันออกไปแล้วแต่คุณสมบัติ แต่เวลานี้ที่เมืองซีอาน ประเทศจีนได้ทำการสร้างเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกขึ้นมาเล่นเอาทุกคนงงพร้อมกับคาดไม่ถึงว่านี่จะเป็นสิ่งที่จีนคิดค้นพร้อมประดิษฐ์ขึ้นมาได้จริง เป็นความน่าสนใจของการใช้งานที่หลายคนสงสัยว่าเมืองซีอานเขาทำขึ้นมาทำไมกันแน่

เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ณ เมืองซีอาน ประเทศจีน

นครซีอาน ประเทศจีน ได้มีการเปิดใช้งานเครื่องฟอกอากาศยักษ์มีขนาดความสูงถึง 98.4 ม. ตั้งบนพื้นที่ 2,580 ตร.ม. คาดกันว่าเครื่องฟอกอากาศมหึมาชิ้นนี้จะช่วยฟอกอากาศได้มากระดับ 353 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ครอบคลุมรัศมีพื้นที่ทั้งหมดราว 10 ตร.กม. พื้นที่ตั้งของเครื่องฟอกอากาศยักษ์แห่งนี้อยู่บริเวณเขตฉางอัน ใกล้ๆ กับ Universities Mega City เส้นผ่าศูนย์กลางของเครื่องอยู่ที่ 10 ม. สร้างมาจากกระจกกับแผ่นเหล็กชนิดเบา มีการติดตั้งกังหันสำหรับดูดอากาศทั้งหมด 4 เครื่อง ก่อสร้างพร้อมควบคุมระบบทั้งหมดโดยกองสิ่งแวดล้อมโลก สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน เลือกใช้ระบบพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์เป็นตัวดำเนินการหลักเพื่อต้องการลดใช้พลังงานเผาไหม้จากถ่านหินอันเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เกิดหมอกมากมายในมณฑลส่านซี การทำงานเครื่องฟอกอากาศจะใช้ระบบ HSALSCS คือการใช้พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในการทำงานหลักเพื่อขับเคลื่อนพร้อมกันนี้ยังใช้แสงอาทิตย์มาเป็นตัวช่วยในการกรองฝุ่น PM 2.5 มีสารตั้งต้นประเภทไนโตรเจนออกไซด์ NO2 และสารอินทรีย์ VOCs เป็นสารปนเปื้อนอยู่บนอากาศ เครื่องตัวนี้ใช้ดูดอากาศภายนอกได้ทั้งหมด 4 ทิศ อากาศเสียจะถูกกรองด้วยแผ่นกรองอนุภาคที่มีขนาดใหญ่กับขนาดเล็กแล้วส่งต่อไปยังแผงกรองที่ทำการเคลือบฟิล์มชนิดพิเศษเอาไว้ใช้ย่อยสลายแก๊สพิษของเสีย เมื่ออากาศผ่านการฟอกเรียบร้อยจะถูกส่งไปรวมกันแล้วส่งออกไปเป็นอากาศบริสุทธิ์ต่อไป

สาเหตุที่ต้องสร้างเครื่องฟอกอากาศขนาดยักษ์นี้ขึ้นมาเพราะบริเวณประเทศจีนหลายพื้นที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของมลพิษบนอากาศขนาดว่าคล้ายมีเมฆปกคลุมท้องฟ้าตลอดเวลา ภายในอากาศเต็มไปด้วยมลพิษสร้างความเสียหายต่อสุขภาพของผู้คนอย่างมาก การคิดค้นเครื่องฟอกอากาศยักษ์นี้ขึ้นมาเพื่อต้องการฟอกอากาศเสียให้กลายเป็นอากาศดีอีกครั้ง จึงเลือกใช้พลังงานแสงอาทิตย์แทนพลังงานถ่านหินอันเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งทำให้เกิดมลพิษดังกล่าวขึ้น ถือว่าน่าสนใจกับการเลือกใช้งานอยู่ไม่น้อยเหมือนกันและยังทำให้อากาศในบริเวณนั้นดีขึ้นอีกต่างหากสำหรับการเลือกแก้ปัญหาได้อย่างน่าประทับใจของเมืองจีน

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ต่างจากเครื่องฟอกอากาศปกติอย่างไร

air purifiers and air purifiers

ยุคนี้ไม่ได้มีแค่เครื่องฟอกอากาศตามบ้าน ภายในอาคารให้ใช้งานอีกต่อไปแต่เครื่องฟอกอากาศยังถูกสร้างให้นำมาใช้งานภายในรถยนต์ได้อีกด้วย ถือว่าเป็นนวัตกรรมดีๆ อีกชิ้นหนึ่งที่เกิดขึ้นกับการพยายามรักษาสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับสุขภาพมากที่สุดพูดง่ายๆ คือไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนเรื่องของอากาศคือสิ่งสำคัญ แม้แต่บนรถของเราที่อาจคิดว่าไม่มีอะไรแท้จริงแล้วฝุ่นละออง สิ่งสกปรกต่างๆ ล่องลอยอยู่รอบตัวเราโดยที่เราเองไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แต่มีหลายคนคงตั้งคำถามในใจไม่น้อยว่าระหว่างเครื่องฟอกอากาศรถยนต์กับเครื่องฟอกอากาศปกติมันแตกต่างกันอย่างไร

ความแตกต่างระหว่างเครื่องฟอกอากาศรถยนต์กับเครื่องฟอกอากาศปกติ

ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจลักษณะของพื้นที่ในรถยนต์กับพื้นที่ทั่วไปกันก่อน สำหรับพื้นที่ทั่วไปที่เราอยู่อาศัยกันภายในบ้าน ห้องนอน อาคารต่างๆ จะมีการพบเจอของฝุ่นละออง สิ่งสกปรกในอากาศในรูปแบบแตกต่างกับรถยนต์ กล่าวง่ายๆ คือ รถยนต์เวลาวิ่งออกไปนอกถนนจะเต็มไปด้วยความสกปรก ฝุ่นละอองจากอากาศของควันท่อไอเสีย พบเจอก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และอื่นๆ อีกมากมาย บวกกับระบบการถ่ายเทอากาศของรถยนต์เป็นแบบเปิดนั่นหมายความว่าโอกาสที่รถยนต์จะพบเจอกับอากาศอันแสนเลวร้ายมากกว่าภายในตัวอาคารเยอะ เครื่องฟอกอากาศที่ทำออกมาเพื่อใช้งานกับตัวรถยนต์จึงเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยเช่นกัน แต่หากถามว่าระบบการทำงานของเครื่องฟอกอากาศทั้งสองประเภทนี้ต่างกันมากน้อยขนาดไหน อาจเป็นเรื่องของขนาดมากกว่าเพราะระบบการทำงานต่างๆ แทบไม่ต่างเลยนั่นเพราะการทำงานของเครื่องปรับอากาศคือการดึงอากาศจากโดยรอบเข้าไปยังเครื่องผ่านกระบวนการต่างๆ แล้วถูกปล่อยออกมาให้เกิดเป็นอากาศบริสุทธิ์ในบริเวณที่ใช้งาน ซึ่งระบบการทำงานที่ว่าเครื่องฟอกอากาศทั้งสองประเภททำหน้าที่ได้เหมือนกัน แต่ความต่างเรื่องขนาดก็มาจากพื้นที่การใช้งาน ในอาคาร ห้องนอน บ้าน เรามีพื้นที่เยอะกว่าการใช้เครื่องฟอกอากาศก็ต้องใหญ่กว่า ใช้กำลังเยอะกว่าเพื่อจะช่วยให้อากาศทั่วบริเวณสะอาดมากที่สุด ส่วนในรถพื้นที่ไม่เยอะก็ใช้ขนาดเล็กสำหรับสร้างความสะอาดให้กับรถยนต์ที่มีพื้นที่ไม่มากนักนั่นเอง

บทสรุปที่ได้นั่นคือความต่างของเครื่องฟอกอากาศทั้งสองประเภทนี้หากมองในมุมการทำงานแทบไม่มีความแตกต่างกันแต่ถ้าจะต่างกันจริงๆ คงเป็นเรื่องของขนาดพร้อมกำลังในการใช้งานมากกว่า ส่วนใครคิดว่าควรติดในรถไว้ดีหรือไม่แนะนำว่าต้องเลือกซื้อของดี ราคาอาจแพงหน่อยแต่รับรองว่าคุ้มค่ากับการใช้งาน เพราะจะทำให้อากาศในรถสะอาดมากขึ้น เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้รถมากขึ้น